|
||||||||||||||||||||||||
สาส์นจาก อ. ตะวัน ปัจจุบันนี้ศาสตร์ "ฮวงจุ้ย” ได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย เช่น มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฮ่องกง, ไทย, จีน และ เริ่มมีการกระจายศาสตร์นี้เข้าไปอเมริกาและแคนาดา รวมไปถึงประเทศในแถบยุโรปด้วยเช่นเดียวกัน ทุกวันนี้เราทุกคนคงมีคำถามในใจว่าทำไมศาสตร์ "ฮวงจุ้ย” ถึงเป็นศาสตร์ที่ได้รับความนิยมมานานกว่า 4,000 ปีตั้งแต่ศาสตร์นี้ได้ถูกเริ่มคิดค้นขึ้นมา คำตอบนั้นสามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่า "ศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นสามารถใช้สร้างความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านโชคลาภและสุขภาพให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆได้จริง” เราจึงได้พบว่าในประเทศอย่างมาเลเซีย, สิงคโปร์, ฮ่องกงนั้น ศาสตร์ "ฮวงจุ้ย” จึงได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วไปเป็นอย่างมาก เรียกว่าแทบทุกครั้งของการซื้อบ้านใหม่, ต่อเติมบ้านเก่า หรือ หาสำนักงานหรือโรงงานใหม่ จะต้องได้รับการปรึกษาทางด้านฮวงจุ้ยเสมอๆ สำหรับในประเทศไทยนั้นศาสตร์ "ฮวงจุ้ย” ยังได้รับการยอมรับกันในวงจำกัดอยู่ในเฉพาะกลุ่มเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่มีเชื้อสายจีนเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากซินแสหรือปรมาจารย์ทางด้านฮวงจุ้ยที่มีความรู้ในศาสตร์นี้อย่างถูกต้องและลึกซึ้งนั้นมีอยู่จำกัด รวมถึงไม่ค่อยได้เผยแพร่ศาสตร์ดังกล่าวออกมานัก จึงทำให้เรายังได้ยินการให้คำปรึกษาด้านการจัดฮวงจุ้ยในเชิง "สัญลักษณ์” เป็นส่วนใหญ่ เช่นการให้ตั้งน้ำพุเพื่อความเจริญรุ่งเรือง, การติดเสือคาบดาบหรือยันต์แปดทิศเพื่อกันพลังร้ายจากทางสามแพร่ง ฯลฯ หรืออีกหลายๆคำแนะนำ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าศาสตร์ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของความงมงาย, ความเชื่อ, ไม่ทันสมัย หรือบางท่านอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์เลยทีเดียว ความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่ไม่แปลกเท่าไร เพราะแม้กระทั่งตัวผมเองที่ได้เริ่มเรียนรู้เรื่องฮวงจุ้ยมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ยังวิพากษ์วิจารณ์ศาสตร์ด้านนี้ในวงเพื่อนสนิทอยู่เสมอๆ โดยไม่ได้เกิดจากความเข้าใจในศาสตร์นี้อย่างถ่องแท้ จวบจนกระทั่งผมได้มีโอกาสได้เรียนรู้วิชา "ฮวงจุ้ยเชิงวิทยาศาสตร์” จากสถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทย ของท่าน อ.มาศ เคหาสน์ธรรม จึงได้เริ่มเข้าใจถึงแก่นของวิชาอย่างถ่องแท้ ได้เรียบรู้ถึงปรัชญาที่ได้ทำให้ศาสตร์นี้ได้รับการยอมรับมานานกว่า 4,000 ปี หลังจากนั้นได้มีโอกาสติดตาม อ.มาศ ในการให้คำปรึกษากับผู้คนมากมาย รวมถึงได้ให้คำปรึกษากับผู้คนด้วยตนเองอย่างจริงจัง และได้พบว่าศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นสามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านโชคลาภและสุขภาพให้กับผู้ได้รับคำปรึกษาจริง ผมจึงได้ตัดสินใจที่จะนำศาสตร์นี้มาใช้ในการให้คำปรึกษาร่วมกับความรู้ทางสถาปัตยกรรมที่ได้ศึกษามาในระดับอุดมศึกษา และเผยแพร่ต่อให้กับผู้ที่สนใจในการรียนรู้อย่างจริงจัง เพื่อมิให้ศาสตร์ที่มีค่านี้ต้องสาบสูญหรือมีความเข้าใจที่บิดเบือนไป |
|
|||||||||||||||||||||||
|