The Integration of Feng Shui with Architectural Design ; Feng Shui Knowledge Center (Thailand)
  ฮวงจุ้ย วิทยาศาสตร์แห่งการบริหารพลังงานตามหลักสถาปัตยกรรมศาสตร์เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์
  อ.ตะวัน เลขะพัฒน์ โทร. 080-298-9998
 
 
 

หน้าแรก

ความรู้เรื่องฮวงจุ้ย

ข่าวสารจากทางสถาบัน

กรณีศึกษาจริง

“ฉลูทอง” 2564 จุดเริ่มต้นแห่งยุคทอง

มุ่งหามงคล หลีกเลี่ยงเคราะห์ภัย ปีหนูทอง 63

เสริมดีแก้ชง พิชิตดวงปีกุน 62

เปิดความลับฟ้าดิน ปีจอ 61

เจาะลึก ปีระกาไฟ 60

หาโอกาสผ่าวิกฤติ "ปีวอก" 59

รู้ทันฟ้ารับปี “มะแม” 58

ถอดรหัสฟ้ารับปีม้าไฟ 57

รู้ทันฮวงจุ้ยปีมะเส็ง 56 "ฝนยั่วไฟ"

• ฮวงจุ้ยดีรับปีมังกรคะนองน้ำ 55

• เสริมฮวงจุ้ยรับปี
กระต่ายตื่นทอง 54

ฮวงจุ้ยดีรับปีเสือดุ 53

ประวัติของศาสตร์ฮวงจุ้ย

วิทยาศาสตร์ของศาสตร์ฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยกับชีวิตมนุษย์

สาส์นจาก อ.ตะวัน

ถอดรหัสทิศดีปี 52

หลักสูตรการอบรม

ขอบเขตการให้คำปรีกษา

ประวัติ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

ติดต่อ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

 
 


“ฮวงจุ้ย” นายแห่ง “โชคชะตา”

        ปัจจุบันนี้หลายๆท่านคงได้คุ้นเคยกับคำว่า “ฮวงจุ้ย” กันมากขึ้นนะครับ อาจจะเป็นจากประสบการณ์โดยตรงที่ได้เคยมีการเชิญซินแสมาจัดฮวงจุ้ยที่บ้าน จากประสบการณ์ทางอ้อมที่เคยได้ยินคำบอกเล่าจากคนที่เรารู้จัก หรือไปจนกระทั่งจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือ โทรทัศน์ อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาของผมนั้นได้พบว่า ผู้คนเป็นจำนวนมากยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับฮวงจุ้ยว่าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ความเชื่อ ศาสนา ไปจนกระทั่งเป็นเรื่องงมงาย พิสูจน์ไม่ได้ ซึ่งผมคงต้องขอบอกในฐานะของนักวิชาการทางด้านฮวงจุ้ยว่าแท้จริงแล้ว “ฮวงจุ้ย” นั้นเป็นหลักวิชาการชั้นสูงที่มีที่มาที่ไป มีตรรกในการคิด โดยในต่างประเทศโดยเฉพาะในแถบยุโรปและอเมริกานั้นถึงกับเรียก “ฮวงจุ้ย” ว่าเป็น “ศาสตร์แห่งอภิมหาปรัชญา” (Metaphysics) เลยทีเดียวนะครับ

       หรือหากจะมองในประเทศที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไร เช่น สิงคโปร์ ประเทศในอาเซียนของเราเอง ก็ได้มีการนำเอา “ฮวงจุ้ย” เข้ามาร่วมใช้ในการออกแบบทั้งสถาปัตยกรรมในภาพใหญ่ เช่น การวังผังเมือง (Urban Landscape) ของประเทศ เช่น การเลือกทำเลของสถานที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามบินแห่งชาติ ย่านการค้าและย่านธุรกิจการเงิน โดยตัวของมันเองต้องอยู่ในชัยภูมิที่ดี (Appropriate Landform) และมีองศาทิศทางที่ดี (Appropriate Direction) และเมื่อเทียบกลับมาที่ทำเนียบรัฐบาลเองก็ต้องเป็นองศาทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน หรือหากมองในระดับที่เล็กลงมา ก็มีการนำเอา “ฮวงจุ้ย” มาร่วมใช้ในการออกแบบสถาปัตยกรรมในภาพย่อย โดยอาคารที่เรารู้จักกันดีก็ได้แก่ กลุ่มอาคาร “ซันเทค ซิตี้” (Suntec City) ของมหาเศรษฐีลำดับต้นๆของโลก ลี กา ชิง (Li-Ka Shing) นั่งเอง ซึ่งจุดที่มีชื่อเสียงที่สุดก็ได้แก่ การสร้าง “น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง” (Fountain of Wealth) ซึ่งในความเห็นของซินแสที่มีชื่อเสียงหลายๆท่าน ก็ได้ให้การยอมรับว่าเป็นน้ำพุที่ทรงพลัง และก่อกำเนิดความมั่งคั่งให้กับสิงคโปร์ได้อย่างมากที่สุด (นอกจากนี้ยังเป็นน้ำพุที่ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย)

Fountain of Wealth และ กลุ่มอาคาร Suntec City ที่ได้ใช้หลักฮวงจุ้ยในการออกแบบ และได้รับการยอมรับกันในระดับโลก

       มาถึงตรงนี้หลายท่านคงเริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” ขึ้นมาเป็นอย่างมากใช่ไหมครับ เพราะการจัดฮวงจุ้ยนั้นไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งของหรืออุปกรณ์ที่เป็นเรื่องของความเชื่อหรือไสยศาสตร์แม้แต้น้อยครับ แท้จริงแล้ว “ฮวงจุ้ย” เป็นศาสตร์ว่าด้วยการ “บริหารพลังงานธรรมชาติให้สอดคล้องกับดวงชะตาของมนุษย์” (How to manager the energy to complete the human destiny?) เพราะใน ยาม วัน เดือน ปี (Four Pillars) ที่เราเกิดมานั้น เมื่อเราสูดเอาลมหายใจครั้งแรกเข้าไปในปอด นั้นถือว่าเราได้ประจุพลังธรรมชาติครั้งแรกเข้าไปในชีวิตของเรา ซึ่งจะสามารถบอกได้ว่าเราเป็นคนที่มีลักษณะอย่างไร

       หรือลองจินตนาการถึงเด็กที่เกิดในเดือนหน้าหนาว เช่น เดือนพฤศจิกายน หรือ เดือนธันวาคม และเกิดในเวลากลางคืน คือเวลา 21:00 น. ไปจนถึง 1:00 น. ซ้ำมากไปกว่านั้นก็เกิดในปีกุนหรือปีชวดด้วย ซึ่งจาก 3 ใน 4 หลัก (ส่วนหลักวันต้องได้รับการผูกดวงชะตาโดยซินแสครับ) ถือว่าเด็กคนนี้ได้ประจุพลังงานในลักษณะ “ธาตุน้ำ” (Water Element) เข้าไปในร่างกาย จึงถือว่าเป็นดวงชะตาที่มีธาตุน้ำรุนแรง จะเป็นคนที่หนาวง่าย เป็นภูมิแพ้หรือเป็นหวัดได้ง่าย โดยในหลักวิชาการที่สูงไปกว่านั้น ซินแสสามารถคำนวณได้ด้วยว่าในแต่ละรอบสิบปี (Luck Pillar) หรือรอบปี (Year Pillar) พลังงานธรรมชาติของระบบสุริยจักรวาลนั้นจะส่งมาแบบเกื้อหนุนหรือลดทอนพลังชีวิตของเรา ยกตัวอย่างเช่น หากเด็กในดวงชะตาธาตุน้ำรุนแรงดังกล่าวได้รับพลังงาน “ธาตุไฟ” (Fire Element) เข้ามาอยู่เรื่อยๆ กลับเป็นการปรับดวงชะตา ให้ช่วงชีวิตนั้นมีแต่ขาขึ้นไปตลอดเวลา ในทางกลับกันหากเขาได้รับพลังงานในรูปแบบ “ธาตุน้ำ” เข้ามาเพิ่มเติมอีกเรื่อยๆในแต่ละปี ก็จะยิ่งทำให้โครงสร้างดวงนั้นถูกบั่นทอนลงไปอีกครับ

แม้กระทั่งต้นไม้ ที่เกิดต่างฤดูกันยังเจริญงอกงามได้ต่างกัน มนุษย์ก็ไม่อยู่ในข้อยกเว้นของธรรมชาติ

 

ทิศทางต่างๆ มีพลังงานในรูปแบบต่างๆกันไป
สามารถใช้ในการปรับดวงชะตาได้

       ซินแสที่มีประสบการณ์นั้นจะไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาครับ หากเราพบว่าดวงชะตานั้นต้องการธาตุไฟ การรอให้พลังงานจากฟ้ามาหาเราในแต่ละปี แต่ละเดือนนั้น ย่อมไม่เป็นสิ่งที่ดีกับเราแน่นอน ดังนั้นหากเราสามารถหาบ้านที่หันหาทิศทางที่เสริมดวงชะตาของเราได้ เช่น การหาบ้านที่หันหน้าเข้าหาทิศใต้ที่เป็นทิศธาตุไฟ การปรับหัวนอนเข้าหาทิศใต้ หรือแม้กระทั่งการเลือกฤกษ์วัน ในการเจรจาต่อรองธุรกิจการค้าใหญ่ๆ ก็เลือกฤกษ์วันที่มีโครงสร้างของฤกษ์ที่เป็น “ธาตุไฟแข็งแรง” (Strong Fire Day Master) ก็จะเป็นการปรับดวงชะตาให้ท่านสามารถพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างต่อเนื่อง มากไปกว่านั้นหากท่านสามารถหาทำเลของที่พักอาศัย สำนักงานหรือโรงงงาน ที่นอกจากจะเป็นทิศทางที่ปรับดวงชะตาได้ แต่ยังเป็นทิศทางที่เป็นทิศโชคประจำยุคที่ 8 (พศ.2547-2567) ของศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบดาวเหิน (Xuan Kong Flying Star) ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับจากซินแสชั้นในทั้งใน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ก็จะยิ่งเป็นเหมือนกับตัวคูณที่ทำให้ท่านและสมาชิกในครอบครัวได้พบกับความสำเร็จได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดครับ

 

 

 


Copyright©2007 by Master Tawan Lekhapat. All Rights Reserved.mastertawan@hotmail.com