The Integration of Feng Shui with Architectural Design ; Feng Shui Knowledge Center (Thailand)
  ฮวงจุ้ย วิทยาศาสตร์แห่งการบริหารพลังงานตามหลักสถาปัตยกรรมศาสตร์เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์
  อ.ตะวัน เลขพัฒน์ โทร. 080-298-9998
 
 
 

หน้าแรก

ความรู้เรื่องฮวงจุ้ย

ข่าวสารจากทางสถาบัน

กรณีศึกษาจริง

“ฉลูทอง” 2564 จุดเริ่มต้นแห่งยุคทอง

มุ่งหามงคล หลีกเลี่ยงเคราะห์ภัย ปีหนูทอง 63

เสริมดีแก้ชง พิชิตดวงปีกุน 62

เปิดความลับฟ้าดิน ปีจอ 61

เจาะลึก ปีระกาไฟ 60

หาโอกาสผ่าวิกฤติ "ปีวอก" 59

รู้ทันฟ้ารับปี “มะแม” 58

ถอดรหัสฟ้ารับปีม้าไฟ 57

รู้ทันฮวงจุ้ยปีมะเส็ง 56 "ฝนยั่วไฟ"

• ฮวงจุ้ยดีรับปีมังกรคะนองน้ำ 55

• เสริมฮวงจุ้ยรับปี
กระต่ายตื่นทอง 54

ฮวงจุ้ยดีรับปีเสือดุ 53

ประวัติของศาสตร์ฮวงจุ้ย

วิทยาศาสตร์ของศาสตร์ฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยกับชีวิตมนุษย์

สาส์นจาก อ.ตะวัน

ถอดรหัสทิศดีปี 52

หลักสูตรการอบรม

ขอบเขตการให้คำปรีกษา

ประวัติ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

ติดต่อ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

 
 

 

ดูฮวงจุ้ยสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ได้อย่างไร

ช่วงนี้การพัฒนาระบบการขนส่งมวลชนของประเทศไทยเริ่มดีขึ้นเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่เริ่มเน้นในเรื่องดังกล่าว
มากขึ้น ดังนั้นการเกิดสะพานข้ามแยกใหม่ๆ ทางรถไฟฟ้า สถานีรถไฟฟ้า หรือจุดตัดทางแยกใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากทีเดียว
ซึ่งหลักการในการพิจารณาตามตำราฮวงจุ้ยโบราณนั้นไม่ได้มีกล่าวถึงเรื่องเหล่านี้ไว้ครับ เพราะสิ่งก่อสร้างดังกล่าวนั้น
เพิ่งมีมาได้เพียงช่วงไม่กี่สิบปีหลังเองครับ ในขณะที่แม่แบบของตำราฮวงจุ้ยในระบบวิชาการ (Authentic Feng Shui)
ที่ถือว่าได้รับการยอมรับนั้น อายุน้อยที่สุดก็ต้องย้อนไปตั้งแต่สมัยช่วงราชวงศ์หมิงต่อเนื่องมาราชวงศ์ชิง
(สองราชวงศ์สุดท้ายของจีน) หรือช่วงศตวรรษที่ 17-18 หรือสองร้อยกว่าปีก่อนหน้านี้แล้ว โดยอาจารย์ เจี่ย ต้า หง
(Jiang Da Hong) ซึ่งก็ทำให้ไม่มีรายละเอียดว่า สิ่งปลูกสร้างในสมัยใหม่เหล่านี้ว่ามีผลตามศาสตร์ฮวงจุ้ยอย่างไร จึงทำให้ซินแสในยุคปัจจุบันต้องมีการประยุกต์เอาหลักตามศาสตร์โบราณ เพื่อมาใช้ในการวิเคราะห์ผลกระทบต่อ
ฮวงจุ้ยของทำเลในปัจจุบันครับ

เรามาลองดูตัวอย่างของทำเลฮวงจุ้ยใหญ่ๆที่ได้รับผลจากสิ่งก่อสร้างใหม่ๆกันครับ ยกตัวอย่างแรกได้แก่
ทำเลของโค้งน้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานสาทรและสถานีรถไฟฟ้าตากสิน กระแสพลังงานจากน้ำเจ้าพระยานั้น
จะถูกลากจากทิศเหนือลงใต้เป็นหลัก ซึ่งการที่มีสะพานข้ามแม่น้ำและสถานีรถไฟฟ้านั้น ถือเป็นการตัดกระแสพลังงาน
ให้เก็บไว้อยู่เพียงทำเลที่ฝั่งทิศเหนือของสะพาน ความเจริญรุ่งเรืองจึงได้สะสมอยู่บริเวณนั้นเป็นหลัก
ผมยกตัวอย่างอาคารที่อยู่ทางด้านเหนือของสะพานสาทร ได้แก่ โรงแรมแชงกรีล่า, โรงแรมโอเรียลเต็ล,
โรงแรมมิลเลเนียมฮิลตัล, โรงแรมเพนนินซูลา หรือแม้กระทั่งโรงเรียนอัสสัมชัญ
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ภาพรวมของธุรกิจทางด้านนี้จะมีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่ากลุ่มอาคารที่อยู่ทางด้าน
ทิศใต้ของสะพานสาทรครับ กว่าที่กระแสพลังงานจะสามารถสะสมตัวหลังจากโดนตัดกระแสไปแล้ว
ก็ต้องใช้ระยะทางอีกยาวทีเดียวครับ เช่น ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ที่ได้รับกระแสพลังงานที่มาสะสมตัว
จากสะพานพระราม 9 นั่งเองครับ

sathornbridge.jpg

ภาพของสะพานสาทรที่ช่วยในการกักเก็บกระแสพลังงานจากแม่น้ำเจ้าพระยาให้กับกลุ่มอาคารของ โรงแรมแชงกรีลา โรงแรมโอเรียลเต็ล โรงแรมเพนนินซูล่า โรงเรียนอัสสัมชัญ และอีกหลายๆอาคารครับ

 

kbang

ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ก็มีฮวงจุ้ยที่เป็นมงคลจากสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ ได้แก่สะพานพระราม 9 ที่ช่วยในการเก็บกระแสพลังจากมังกรน้ำเจ้าพระยาเช่นเดียวกันครับ


หรือหากเรามองตัวอย่างของ “รถไฟฟ้า” ก็มี Case Study ที่น่าสนใจอยู่หลายที่เหมือนกันครับ
ลองมาดูอาคารโรงแรมดุสิตธานีที่อยู่ที่แยกศาลาแดงครับ เป็นแยกที่ตัดระหว่างถนนพระราม 4 กับถนนสีลม
ซึ่งถือเป็นจุดที่ได้รับกระแสพลังงานจากการจราจรสูง และยิ่งหลังจากการได้แนวรถไฟฟ้า BTS
ที่วิ่งผ่านมาจากแยกราชประสงค์มาจนถึงแยกศาลาแดง ก็ยิ่งถือว่าสามารถรับกระแสพลังงานได้มาก
ในขณะเดียวกันแนวรถไฟฟ้านั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มาตัดกระแสพลังงานของถนนพระราม 4
ให้เข้ามาสะสมตัวที่กลุ่มอาคารได้มากขึ้นไปอีก ร่วมไปกับการออกแบบของอาคารที่เป็นลักษณะโค้งโอบ
ที่สามารถดักและกักเก็บกระแสพลังงานได้ ก็ยิ่งเป็นที่มาของความเจริญรุ่งเรืองครับ

dusitthani

แนวรถไฟฟ้า BTS ที่ช่วยในการส่งกระแสพลัง และตัดกระแสพลังจากถนนพระราม 4 และสวนลุมพินี
ส่งให้กับกลุ่มอาคารโรงแรมดุสิตธานี

 

หรือตัวอย่างที่น่าสนใจของแนวรถไฟฟ้าอีกจุดหนึ่งก็ได้แก่ “อาคารเอ็มไพร์และอาคารรัจนาการ” ครับ
ถือว่าเป็นอาคารคู่ที่สำคัญซึ่งกันและกันเป็นอย่างมากครับ เพราะอาคารทั้งสองนั้นได้รับกระแสพลังงานจาก
รถไฟฟ้า BTS เป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน เป็นโค้งเชือดเฉือนที่จ่ายพลังเข้ามาอย่างรุนแรง โดย Empire Tower
นั้นถือว่าได้รับผลดีจากการที่อาคารรัจนากาญจน์นั้นสร้างยื่นออกมา ช่วยในการตัดกระแสพลังงาน
ให้เก็บอยู่ในกลุ่มอาคารให้ได้เยอะที่สุด ในทางกลับกันอาคารรัจนากาญจน์ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก
เมื่อเทียบกับ Empire Tower ก็ได้ Empire Tower นี่เองที่มีสภาพเป็นเหมือนกับภูเขาที่ช่วยโอบล้อม
กระแสพลังงาน เพื่อชดเชยในการที่ตัวอาคารนั้นกระชั้นถนนสาทรเป็นลักษณะเหมือนกับ “น้ำตัดขา”
ซึ่งอาคารทั้งสองนี้สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามศาสตร์ฮวงจุ้ยได้เป็นอย่างดีครับ

empiretower

อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ และอาคารรัจนากาญจน์ ที่เกื้อกูลกันเป็นอย่างมาก
ตามศาสตร์ฮวงจุ้ยในเรื่องของการสะสมกระแสมังกรจากรถไฟฟ้า BTS


ยังมีตัวอย่างอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากนะครับ โดยผมจะนำมาบอกเล่าในโอกาสต่อๆไปนะครับ อย่างไรก็ตาม
ฮวงจุ้ยที่ดีนั้นต้องประกอบด้วย “ชัยภูมิที่ดีและองศาทิศทางที่ดี” ครับ ดังนั้นการดูปัจจัยในเชิงของทำเล
หรือชัยภูมินั้นยังบอกว่าสิ่งปลูกสร้างของท่านจะสามารถเจริญรุ่งเรืองได้หรือไม่แค่ครึ่งเดียวครับ
ท่านยังควรได้รับการประเมินคุณภาพของ “องศาทิศทาง” ด้วยว่าเป็นองศาทิศทางที่เป็นมงคลหรือไม่
หรือมากไปกว่านั้นว่าเป็นองศาทิศทางที่เสริมกับดวงชะตาของท่านและสมาชิกในครอบครัวหรือไม่ด้วยครับ


หมายเหตุ: บทความดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์ตามหลักของศาสตร์ฮวงจุ้ยเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์อื่นใดอีก

หน้าแรกฮวงจุ้ย

 

 

 


Copyright©2007 by Master Tawan Lekhapat. All Rights Reserved.mastertawan@hotmail.com