เสริมฮวงจุ้ยห้องเรียนเด็กๆได้อย่างไร

เสริมฮวงจุ้ยห้องเรียนเด็กๆได้อย่างไร
สำหรับบ้านที่มีลูกหลายในวัยเล่าเรียน คงมีคำถามว่าจัดฮวงจุ้ยอย่างไร จึงจะสามารถเสริมเรื่องการศึกษาของเด็กๆในบ้านได้ เพราะต้องยอมรับว่าสำหรับประเทศของเราแล้ว เรื่องการศึกษาของบุตรหลานถือเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองปัจจุบันให้ความใส่ใจกันมาก เพราะมีความเชื่อว่าจะเป็นเหมือนกับใบเบิกทางที่สำคัญให้กับอนาคตของเขา ตามศาสตร์ของฮวงจุ้ยเองก็มีสูตรการจัดห้องเพื่อเสริมเรื่องของการศึกษาของเด็กๆได้เหมือนกัน โดยมีตำราหรือหลักการคำนวณอยู่หลายวิชา โดยผมจะยกตัวอย่างวิชาที่สามารถถ่ายทอดได้สะดวกดังนี้

ต้นไม้ หรือพลังของ “ธาตุไม้” ถือเป็นตัวแทนของ “การศึกษา” ในมุมมองของศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบวิชาการ

การตกแต่งการเลือกสีสัน สำหรับเรื่องของการศึกษา ในวิชาฮวงจุ้ยนั้นเปรียบเสมือนกับเป็นพลังของ “ธาตุไม้” เพราะต้นไม้นั้นจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป พัฒนาจนกลายเป็นต้นไม้ใหญ่โดดเด่น ออกดอกออกผลสวยงาม ในระยะสั้นอาจมองไม่เห็นความแตกต่างหรือความเปลี่ยนแปลง แต่ยิ่งผ่านวันยาวนานไปยิ่งเห็นความอุดมสมบูรณ์ เช่นเดียวกับการศึกษาที่เด็กๆนั้นจะเล่าเรียนอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างเป็นระแบบแบบแผน ค่อยๆสะสมวิชาความรู้มากขึ้นเรื่อยๆ จนในวันนึงก็จะฉลาดหลักแหลม ทำให้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคม เหมือนต้นไม้ที่ออกดอกออกผล
ดังนั้นการตกแต่งห้องด้วยสีสันของ “ธาตุไม้” เช่น การใช้สีโทนเขียว ไม่ว่าจะเป็นเขียวอ่อน เขียวแก่ เขียวขี้ม้า เขียวน้ำทะเล ฯลฯ หรือแม้กระทั่งการใช้ลวดลายไม้อ่อนๆ หรือของประดับตกแต่งที่ทำจากไม้จริงเอง หรือการประดับห้องด้วยเรียนห้องทำงานของเด็กๆด้วยต้นไม้จริงก็จะถือว่าเสริมพลังของธาตุไม้ได้ดี โดยชนิดของต้นไม้นั้น ซินแสจะชอบต้นไม้ชนิด “ใบเรียวแหลม” เพราะถือว่ามีพลังของ “ธาตุไม้” ผสมกับ “ธาตุไฟ” เหมือนกับไม้ที่ติดไฟ ให้แสงสว่างที่ลุกโชติช่วง เปรียบเสมือนกับคำโบราณของชาวจีนมักบอกว่า “ไม้ไฟก่อเกิดอัจฉริยะ” ดังนั้นต้นไม้อย่าง “ไผ่กวนอิม” จึงถือว่าเป็นต้นไม้มงคลของชาวจีน เพราะเป็นต้นไม่ที่มีพลังของธาตุไม้ผสมกับธาตุไฟ หรือหากท่านสามารถเลือกชนิดที่ประดับด้วยโบว์หรือริบบิ้นสีแดงด้วยก็ยิ่งเสริมความเป็นมงคล

ห้องเรียนหรือห้องอ่านหนังสือที่ใช้สีสันของ “ธาตุไม้” ช่วยเสริมพลังเรื่องการศึกษา โดยสามารถใช้สีสันที่สดใสเพิ่มเติมด้วยได้

ต้นไผ่กวนอิมที่คนจีนเชื่อว่ามีพลังเสริมเรื่องการศึกษา

หรือหากเลือกเป็นของตกแต่งของประดับ ก็สามารถใช้ “ดินสอเหลาแหลม” ก็ได้ โดยหากได้เป็นชนิดที่โชว์ลวดลายไม้ได้ก็ยิ่งเสริมพลังของธาตุไม้ผสมธาตุไฟได้อย่างดีเยี่ยม หรือหากสามารถหาเจดีย์บุ่งเชียงที่มีรูปทรงเป็นอาคารสูงแหลม ชาวจีนมีความเชื่อว่าช่วยเสริมเรื่องการศึกษาของลูกหลาน ถือว่ามีพลังของธาตุไม้ผสมธาตุไฟแฝงอยู่ ก็สามารถนำมาเสริมเรื่องการเรียนของลูกหลานท่านได้เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นโคมไฟที่มีส่วนผสมของสีเขียว ลายไม้ หรือ ไม้จริง ก็สามารถเสริมเรื่องการศึกษาได้ด้วย เพราะถือว่ามีพลังของธาตุไม้ผสมธาตุไฟเสริมอยู่เช่นเดียวกัน โดยทิศทางมาตรฐานในการเสริมเรื่องของการศึกษาได้แก่ “ทิศตะวันออกเฉียงใต้” ท่านสามารถตกแต่งมุมดังกล่าวของห้องเรียนโดยใช้สีสันหรืออุปกรณ์ตามที่กล่าวมาได้

ดินสอเหลาแหลม หรือ เจดีย์บุ่งเชียงก็เป็นสิ่งของที่นิยมใช้ในการเสริมเรื่องการศึกษาได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นการจัดห้องเรียนในเบื้องต้น ควรจะจัดให้สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้จะมีหนังสืออุปกรณ์มาก แต่ไม่ควรปล่อยรกสกปรก เพราะจะทำให้กระแสพลังถ่ายเทไหลเวียนได้ไม่ทั่วถึง หรือจะทำให้การคิดของลูกหลานท่านไม่เป็นระบบแบบแผน นอกจากนั้นห้องควรจะโปร่ง โล่ง สว่าง มองได้ไกล เพราะจะช่วยให้เด็กสามารถคิดอ่านได้อย่างมีวิสัยทัศน์ มีมุมมองกว้างไกล มีความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนั้นยังทำให้เขาผ่อนคลายในเวลาที่เครียดหรือเหนื่อยล้าจากการทำงานอ่านหนังสือด้วย หากไม่สามารถจัดห้องได้สะอาดสะอ้านได้จริงๆ อาจเป็นเพราะขนาดห้องที่เล็กหรือของที่เยอะ อย่างน้อยก็ขอให้มุมตะวันออกเฉียงใต้ของห้องเป็นมุมที่สะอาดสะอ้านที่สุดก็ถือว่าเป็นทิศทางมาตรฐานที่เสริมเรื่องการศึกษาได้

การจัดห้องให้โปร่ง โล่ง สะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบ มองเห็นได้ไกล ถือว่าเป็นอีกปัจจัยที่เสริมเรื่องการศึกษาได้

ในหลักวิชาชั้นสูง ซินแสจะทำการดูการตกแต่งห้องเรียนและทิศทางที่เหมาะสมอย่างละเอียด เฉพาะเจาะจงบุคคล ซึ่งจะดูจาก วัน เดือน ปี และเวลาเกิดของลูกหลานของเราโดยเฉพาะ จะทำให้ได้ความแม่นยำและผลของการจัดฮวงจุ้ยในการเสริมการศึกษาได้ดีกว่า อย่างไรก็ตามหากท่านสามารถจะเริ่มจัดปรับฮวงจุ้ยเพื่อเสริมห้องเรียนของลูกหลานท่านได้ในเบื้องต้นตามที่ผมได้กล่าวมา ก็เชื่อได้ว่าต้องก่อให้เกิดผลดีกับเขาได้ไม่มากก็น้อยครับ

หน้าแรกฮวงจุ้ย