|
||||||||||||||||||||||||
บิลล์ เกตส์ บุคคลผู้กุมโลกไว้ในฝ่ามือ หากจะกล่าวถึงคนที่ได้รับการยอมรับว่าทรงอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 แล้ว บุคคลที่ต้องได้รับการกล่าวขานเป็นอันดับหนึ่งนั้นได้แก่ “บิลล์ เกตส์” (Bill Gates) นั่นเอง เพราะถือว่าเป็นคนที่นำพาเอาโลกของคอมพิวเตอร์ หรือ โลกแห่งโลกาภิวัฒน์ (Globalization) ให้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน ทำให้ ข้อมูล ข่าวสาร การติดต่อสื่อสาร การประมวลผลต่างๆ ที่เคยเป็นสิ่งไกลตัวหรือทำได้ยากนั้น เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วแค่ใน “หน้าจอ” และ “ฝ่ามือ” ของเราได้อย่างสะดวกสบาย เพราะอะไร บิลล์ เกตส์ ถึงได้เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้ เป็นสิ่งบังเอิญ เป็นความตั้งใจ หรือเป็นโชคชะตาของเขา เรามาลองติดตามกันครับ
บิลล์ เกตส์ เกิดที่ซีแอทเทิล วอชิงตัน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม คศ.1955 เวลาประมาณ 22 นาฬิกา โดยเกตส์นั้นเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางที่มีพ่อเป็นทนายซึ่งพ่อของเขาก็มีความต้องการให้ลูกนั้นประกอบวิชาชีพเป็นทนายเหมือนกัน แม้ว่าเกตส์นั้นจะแสดงความสามารถในด้านคอมพิวเตอร์และคณิตศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก เช่นตั้งแต่อายุ 13 เขาก็สามารถจะเขียนโปรแกรมให้กับคอมพิวเตอร์แบบ Main Frame ให้กับโรงเรียนเพื่อช่วยในการเรียนการสอนได้เป็นคนแรก หรือเมื่ออายุ 15 ก็เริ่มทำธุรกิจเขียนโปรแกรมร่วมกับเพื่อนสนิทรุ่นพี่ชื่อ พอล อัลเลน (Paul Allen) ที่ในต่อมาก็กลายเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญในบริษัทไมโครซอฟท์นั่นเอง
หรือแม้กระทั่งตอนที่สอบเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) เกตส์ก็สามารถทำข้อสอบวัดความถนัดทางด้านคณิตศาสตร์ และวิศวกรรม (SAT) ได้ถึง 1,590 คะแนน จากเต็ม 1,600 คะแนน อย่างไรก็ตามเขาก็ได้สมัครเข้าเรียนในคณะกฏหมายตามวิชาชีพของพ่อเขา แต่ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถฝืนต่อดวงชะตาได้ เพราะเมื่อเกตส์อายุได้ 20 ปี ในขณะที่ศึกษาอยู่ในคณะกฏหมายนั่นเอง เขาก็ได้ตัดสินใจหยุดเรียนที่ฮาร์วาร์ด เพื่อออกมาเปิดบริษัทเขียนโปรแกรมที่เรารู้จักกันดี นั่นคือไมโครซอฟท์ (Microsoft) ในช่วงแรกนั้นก็เพราะว่าเกตส์เห็นโอกาสว่าในสมัยนั้นเริ่มมีการขายคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเข้าสู่บริษัทองค์กรต่างๆ ไปจนถึงบ้านคนทั่วไปมากขึ้น แต่ยังไม่มีใครที่สามารถพัฒนาโปรแกรมการใช้งานให้ใช้งานได้สะดวกกับผู้ใช้งาน (Human Friendly) ได้เท่าที่ควร ซึ่งลูกค้ารายใหญ่รายแรกๆที่ทำให้ไมโครซอฟท์เป็นที่รู้จักกันดี ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนได้แก่ ไอ บี เอ็ม (IBM) นั่นเอง ท้ายที่สุดเกตย์สามารถพัฒนา Microsoft Window ให้บุคคลทั่วไปใช้งานได้เมื่อเขาอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น และเมื่อเขาอายุได้ 40 ปี ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกมาเกือบทุกปีจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
จากข้อมูลที่กล่าวมาก็แสดงให้เห็นได้ว่า เกตส์นั้นไม่เพียงแค่เป็นคนที่ฉลาดเท่านั้น เขายังเข้าใจเรื่องการทำงานร่วมกับบุคคลอื่นๆที่อายุมากกว่า เช่น พอล อัลเลน ดึงศักยภาพของบุคคลออกมาได้ และรู้จักในการเจรจาต่อรองกับผู้ที่มีอำนาจศักยภาพเหนือกว่าได้อย่างยอดเยี่ยม จะเห็นจากการที่เขาสามารถเข้าไปคว้าโอกาสในการเขียนโปรแกรมให้กับ IBM ซึ่งเป็นบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ที่น่าจะเรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลกได้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง Microsoft เราลองมาดูกันว่ารูปดวงของเกตส์นั้นสามารถสื่อถึงเรื่องราวต่างๆดังที่กล่าวมาได้หรือไม่
เกตส์เกิดในวันที่เป็น “ธาตุน้ำหยาง” หรือน้ำทะเล น้ำมหาสมุทร ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะของสิ่งที่มีการปรับตัวเก่งเพราะน้ำนั้นสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างรูปทรงได้ตามสภาพแวดล้อมภายนอก และธาตุน้ำก็ยังมีลักษณะที่เป็นบุคคลที่มาความคิดที่ลึกซึ้ง เฉกเช่นเดียวกับที่เราไม่สามารถจะหยั่งถึงส่วนใต้สุดของท้องทะเลมหาสมุทร เป็นลักษณะของบุคคลที่คิดค้นวางแผนในเชิงกลยุทธ์เก่ง อย่างไรก็ตามในเนื้อดวงของเกตส์นั้นถือว่าเป็นคนธาตุน้ำที่มี “ธาตุดิน” รายล้อมอยู่เยอะมาก ซึ่งดินเมื่อเทียบกับน้ำนั้นก็เหมือนกับสภาพของสิ่งที่มาคอยควบคุมน้ำหรือเปรียบเสมือนกับเป็นภาระ รับผิดชอบ ให้คนธาตุน้ำนั่นเอง บุคคลที่เป็นธาตุน้ำแล้วมีธาตุดินเยอะๆ หากดวงเขารับไหวก็จะอ่านว่าเป็นคนที่มีอำนาจ บารมี ยศศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบใหญ่โต ซึ่งในโครงสร้างดวงของเกตส์นั้นถือว่าสามารถรับไหว เพราะมี “ธาตุทอง” อยู่ในเนื้อดวงนั่นเอง ธาตุทองในเนื้อดวงของเกตส์ถือว่าเป็นธาตุที่ช่วยรองรับการข่มพิฆาตของธาตุดิน จึงถือว่าเป็น “ธาตุสำคัญ” ในดวง พลิกกระดานกลับให้เป็นคนที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอยู่เสมอๆ ดังนั้น “ทองเล็ก” ในหลักยามนั้นจึงถือว่าเป็นตัวสำคัญที่สุดในรูปดวง ซึ่งตามธรรมชาติของวงจรธาตุนั้นเราถือว่า “ทองก่อเกิดน้ำ” หรือ ทองเป็นธาตุแม่ของน้ำ เป็นตัวสร้างสถานภาพ สร้างสถานะ ความเป็นตัวตน ฐานจิตใจให้น้ำ ดังนั้นการที่ธาตุทองให้คุณ ก็เปรียบเสมือนกับเป็นบุคคลที่มีความฉลาดหลักแหลม คิดอะไรได้ฉับไวเป็นเลิศ เป็นคนที่มืชื่อเสียงสถานภาพในสังคมดี และเป็นคนใจกว้างใจบุญ ซึ่งเราก็จะพบว่าเรื่องราวเหล่านี้ตรงกับชีวิตของเกตส์และเป็นจุดเด่นของเขาจริงๆ หลายท่านคงยังไม่รู้ว่านอกจากเกตส์จะเป็นนักธุรกิจที่ได้รับการยอมรับว่ารวยที่สุดในโลกติดต่อกันหลายปีแล้ว เขายังเป็นผู้ที่บริจาคเงินทองให้กับองค์กรการกุศลหลายที่ รวมถึงมีมูลนิธิของตนเองร่วมกับภรรยา ติดลำดับต้นๆในการบริจาคมาหลายปีมาก
นอกจากธาตุทองแล้ว ธาตุที่สำคัญรองลงมาอีกตัวในดวงของเกตส์ได้แก่ “นักษัตรกุน ธาตุน้ำใหญ่” นั่นเอง เพราะการที่เกตส์นั้นมีธาตุดินเยอะในดวงทั้ง “มะแม” และ “จอ” อ่านว่าเป็นดินที่มีอุณหภูมิร้อน ดังนั้นการมี “กุน น้ำใหญ่” ก็เปรียบเสมือนกับมีน้ำมาชะโลมบนดิน ทำให้สมดุลย์ในดวงนั้นดีขึ้นมาก ซึ่งเราสามารถอ่านว่า “กุน น้ำใหญ่” นั้นเปรียบเสมือนกับเป็น “คู่ธาตุ” ในเนื้อดวงเป็นเหมือนกับคนที่มีนิสัย ใจคอ รสนิยมคล้ายๆกัน ชอบพออะไรเหมือนกัน มาช่วยเหลือเพื่อเกตส์เพื่อให้จัดการกับโชคได้ นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าทำไมเกตส์ถึงได้สามารถทำธุรกิจแบบมีหุ้นส่วนได้ตั้งแต่เด็กๆ
บิลล์ เกตส์ และ พอล อัลเลน เพื่อนซี้ต่างวัย แต่หัวใจเดียวกัน จากการอ่านดวงเบื้องต้นเราพบว่า “ธาตุทอง” นั้นเป็นธาตุสำคัญอันดับหนึ่ง และ “ธาตุน้ำ” เป็นธาตุสำคัญรองลงมา เราลองมาดูว่าฮวงจุ้ยบ้านและที่ทำงานของเกตส์นั้นเสริมเขาได้อย่างไรกันบ้าง บ้านที่เกตส์อยู่เป็นประจำนั้นได้แก่ที่ทะเลสาบวอชิงตัน เมืองเมดินา รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Lake Washington, Medina, Washington, USA) เป็นย่านของคนมีอันจะกินในวอชิงตัน ซึ่งในการเลือกทำเลของบ้านนั้นเกตส์สามารถเลือกตำแหน่งของที่ดินที่เป็น “หัวมังกรภูเขา” หรือหากอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์นั่นคือจุดสุดท้ายที่กระแสพลังงานไหลมารวมตัวกัน
บ้านของ Bill Gates อยู่ในตำแหน่งที่เป็นเหมือกับหัวมังกรยื่นโผล่เข้าไปในผืนทะเลสาบมีลักษณะที่เป็นมงคล ซึ่งถ้าสังเกตจากภาพจะพบว่าหลังบ้านของเกตส์นั้นจะเป็นแนวเทือกเขา ซึ่งจุดที่เป็นเทือกเขานั้นในศาสตร์ฮวงจุ้ยซินแสถือว่าเป็นจุดที่มีกระแสพลัง และที่หน้าบ้านของเกตส์นั้นเจอกับทะเลสาบวอชิงตัน ซึ่งการเจอแอ่งน้ำหรือทะเลสาบหน้าบ้านนั้น ก็เหมือนกับเป็นการรับประกันว่าจุดนั้นเป็นจุดที่ต่ำที่สุดแล้ว ทำให้กระแสพลังงานไม่สามารถไหลต่อไปไหนได้อีก หากได้ทิศบ้านเป็นทิศโชคลาภและมากไปกว่านั้นเป็นทิศทางที่ปรับดวงชะตาได้ก็จะทำให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก
นอกไปจากนั้นลักษณะการสร้างบ้านของเกตส์เองยังมีลักษณะการออกแบบของกลุ่มอาคารให้มีลักษณะที่สามารถโอบล้อมดักกระแสพลังงานจาก “มังกรน้ำ” ของทะเลสาบวอชิงตันได้เป็นอย่างดี โดยกลุ่มอาคารนั้นมีการออกแบบให้โอบล้อมกันไม่ว่าจะเป็นส่วนด้านซ้ายของกลุ่มอาคาร (หรือทิศมังกรเขียว) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกตส์ใช้เป็นบ้านและท่าเรือส่วนตัว ที่ดักยื่นหน้าเข้าไปตัดกระแสพลังจากแนวน้ำที่เห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งในศาสตร์ฮวงจุ้ยเชิงชัยภูมิ (Landform Feng Shui Theory) เรามองว่าเป็นมงคลในเรื่องโชคลาภกับ “ผู้ชาย” ภายในบ้าน ในขณะเดียวกันส่วนด้านซ้ายของกลุ่มอาคาร (หรือทิศเสือขาว) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกตส์ใช้เป็นส่วนออกกำลังกาย ก็เปิดออกและถอยร่นนิดหน่อยจากแนวกระแสน้ำ เพื่อให้กระแสพลังงานสามารถหลากมาทางด้านมังกรเขียวได้สะดวก นั่นหมายถึง “ผู้หญิง” ภายในบ้านให้การสนับสนุน ช่วยเหลือฝ่ายชายเพื่อให้ได้
จากภาพเราจะเห็นว่ากลุ่มอาคารของเกตส์นั้นออกแบบให้สามารถกักเก็บกระแสพลังได้ดีมาก โดยจุดที่สำคัญก็ได้แก่การถอยร่นของส่วนสระน้ำและออกกำลังกาย เพื่อให้กระแสพลังงานไหลมารวมตัวกันที่ส่วนสำนักงานและตัวบ้านของเกตส์ได้ ซึ่งในกรณีนี้ถือว่าส่วนของสำนักงานนั้นมีความเป็นมงคลในเรื่องของโชคลาภมาก เพราะนอกส่วนของท่าเรือ ส่วนของบ้าน นั้นกักเก็บกระแสพลังงานไว้ได้ทั้งหมด รวมทั้งทิศด้านหลังซึ่งเป็นทิศของบารมี ผู้สนับสนันก็มีทั้งอาคารห้องสมุดรูปทรงเป็นโดมกลมแบบ “ธาตุทอง” ซึ่งหมายถึง “อำนาจ” เป็นชัยภูมิหลังพิงให้ด้วย
ในกรณีนี้หลายท่านอาจจะงงว่าทำไมบ้านของเกตส์นั้นออกแบบมาเป็นรูปทรงแบบออกไปทางเป็นตัวยู (U) คว่ำซึ่งในศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นเราไม่ชอบ เพราะถือว่าหาจุดศูนย์กลางของบ้านได้ยาก ถือว่าเป็น “บ้านไม่มีใจ” สมาชิกในครอบครัวจะไม่ชอบอยู่บ้าน แต่หากลองสังเกตจะพบว่าแท้จริงแล้วแต่ละอาคาร โดยเฉพาะอาคารที่เกตส์ใช้เป็นหลักได้แก่ ส่วนของบ้าน (Gatehouse) และส่วนสำนักงาน (Offices) ถูกก่อสร้างแยกออกมาจากอาคารส่วนอื่นๆ จะมีเพียงแค่หลังคาทางเดินเชื่อมกับอาคารอื่นๆเท่านั้น จึงถือว่าอาคารหลักทั้งสองนั้นออกแบบเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมอย่างชัดเจน ถือว่าเป็นลักษณะที่ดีในศาสตร์ฮวงจุ้ย
จากภาพจะเห็นได้เลยว่าทิศทางที่กลุ่มอาคารหันหน้าไปนั้นเป็นทิศที่ใช้ในการปรับดวงได้ นอกจากนั้นยังเป็นทิศโชคลาภประจำยุค และการออกแบบทางสถาปัตย์ฯที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย ก็ช่วยทำให้กลุ่มอาคารนั้นสามารถดักและกักเก็บกระแสพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยม นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่สามารถบอกได้ว่าเกตส์นั้นมีบ้านที่มีฮวงจุ้ยที่ดีและเป็นตัวช่วยให้ชีวิตของเขาเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แต่คนที่ประสบความสำเร็จได้ในระดับของเกตส์นั้น ตามศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นไม่ได้เป็นเพราะฮวงจุ้ยบ้านเพียงอย่างเดียวแน่นอน ในส่วนของฮวงจุ้ยสำนักงานเองก็ต้องถือว่าได้ฮวงจุ้ยที่ดีด้วยเช่นเดียวกัน โดยผมจะพาไปชมฮวงจุ้ยของ “บริษัทไมโครซอฟท์ สำนักงานใหญ่” (Microsoft Corporation Head Quarter) ที่อยู่ไม่ไกลไปจากบ้านของเกตส์เท่าไรนัก โดยอยู่ที่เมืองเรดมอน รัฐวอชิงตัน (Redmond Washington) นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่สามารถบอกได้ว่าเกตส์นั้นมีบ้านที่มีฮวงจุ้ยที่ดีและเป็นตัวช่วยให้ชีวิตของเขาเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แต่คนที่ประสบความสำเร็จได้ในระดับของเกตส์นั้น ตามศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นไม่ได้เป็นเพราะฮวงจุ้ยบ้านเพียงอย่างเดียวแน่นอน ในส่วนของฮวงจุ้ยสำนักงานเองก็ต้องถือว่าได้ฮวงจุ้ยที่ดีด้วยเช่นเดียวกัน โดยผมจะพาไปชมฮวงจุ้ยของ “บริษัทไมโครซอฟท์ สำนักงานใหญ่” (Microsoft Corporation Head Quarter) ที่อยู่ไม่ไกลไปจากบ้านของเกตส์เท่าไรนัก โดยอยู่ที่เมืองเรดมอน รัฐวอชิงตัน (Redmond Washington)
จุดที่เด่นมากๆในเรื่องทำเลที่ตั้งของ Microsoft นี้ได้แก่เรื่องของ “กระแสมังกรถนน” เพราะว่าในกลุ่มอาคารของ Microsoft นั้นมีถนนไฮย์เวย์สายวอชิงตัน 520 (Washington 520 Highway) ตัดผ่าน โดยมีลักษณะเป็นโค้งในแบบตัวเอส (S) ผ่าตรงกลาง ซึ่งถือว่าลักษณะเช่นนี้เราสามารถเรียกได้ว่าเป็น “ถนนสายมังกร” แบบเดียวกับที่ย่านเยาวราชของบ้านเรา เพราะถนนในรูปแบบนี้จะทำให้รถที่วิ่งผ่านไปมา สามารถจ่ายกระแสพลังเข้าไปได้ทั้งสองข้างทางหากมาจากทิศทางที่ดีก็จะทำให้ทำเลนั้นมีโอกาสจะเป็นทำเลที่เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก โดยในช่วงแรกนั้น Microsoft ได้เริ่มก่อร่างสร้างตัวที่ฝั่งขวาของแนวถนนและเมื่อมีการขยายบริษัทก็ได้ทำการขยายทั้งการซื้อและเช่าที่ดินทั้งด้านซ้ายและขวาของถนนสายมังกรนี้ในแนวยาว ตามแนวถนนจึงทำให้กลุ่มอาคารนั้นสามารถรับกระแสพลังจากถนนสายนี้ได้เป็นอย่างดี
|
|
|||||||||||||||||||||||
|