The Integration of Feng Shui with Architectural Design ; Feng Shui Knowledge Center (Thailand)
  ฮวงจุ้ย วิทยาศาสตร์แห่งการบริหารพลังงานตามหลักสถาปัตยกรรมศาสตร์เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์
  อ.ตะวัน เลขะพัฒน์ โทร. 080-298-9998
 
 
 

หน้าแรก

ความรู้เรื่องฮวงจุ้ย

ข่าวสารจากทางสถาบัน

กรณีศึกษาจริง

“ฉลูทอง” 2564 จุดเริ่มต้นแห่งยุคทอง

มุ่งหามงคล หลีกเลี่ยงเคราะห์ภัย ปีหนูทอง 63

เสริมดีแก้ชง พิชิตดวงปีกุน 62

เปิดความลับฟ้าดิน ปีจอ 61

เจาะลึก ปีระกาไฟ 60

หาโอกาสผ่าวิกฤติ "ปีวอก" 59

รู้ทันฟ้ารับปี “มะแม” 58

ถอดรหัสฟ้ารับปีม้าไฟ 57

รู้ทันฮวงจุ้ยปีมะเส็ง 56 "ฝนยั่วไฟ"

• ฮวงจุ้ยดีรับปีมังกรคะนองน้ำ 55

• เสริมฮวงจุ้ยรับปี
กระต่ายตื่นทอง 54

ฮวงจุ้ยดีรับปีเสือดุ 53

ประวัติของศาสตร์ฮวงจุ้ย

วิทยาศาสตร์ของศาสตร์ฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยกับชีวิตมนุษย์

สาส์นจาก อ.ตะวัน

ถอดรหัสทิศดีปี 52

หลักสูตรการอบรม

ขอบเขตการให้คำปรีกษา

ประวัติ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

ติดต่อ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

 
 

 

สิงคโปร์ เมืองแห่งไข่มุกมังกร

เมื่อให้พูดถึงสิงคโปร์เมื่อสมัย 40-50 ปีก่อน เราทุกคนคงไม่เชื่อว่าสิงคโปร์จะถือว่าเป็นประเทศที่ล้าสมัย ล้าหลัง และถือว่าเป็นประเทศที่มีหลายฝักหลายฝ่ายมีความทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกันของคนหลายชนชาติ จนในครั้งหนึ่งนั้นถึงขนาดที่ว่ามาเลเซียนั้นต้องปฏิเสธการขอรวมชาติของสิงคโปร์ไปเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อมากกว่าคือสิงคโปร์นั้นใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งศตวรรษเท่านั้น สามารถที่จะเปลี่ยนให้ตนเองกลับกลายเป็นประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้ว มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจและสังคม มีการเมืองที่มีเสถียรภาพ มีความเป็นอยู่ที่ดีและปลอดภัย จนในปัจจุบันกำลังจะก้าวเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลกทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน


บริเวณคล้ากคีย์ (Clark Quay) ปากแม่น้ำสิงคโปร์ ในยุคก่อนที่ยังดูไม่สะอาด ไม่สวยงาม มีลักษณะฮวงจุ้ยที่ไม่ดี



ตามศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นถือว่าสิงคโปร์นั้นมีลักษณะของฮวงจุ้ยที่ดีมากๆ เพราะเป็นจุดท้ายของแนวกระแสพลังที่ไหลมาจากแนวเทือกเขาหิมาลัย ที่ถือว่าเป็นเทือกเขาที่มีพลังสูงสุดแห่งหนึ่งของโลกเรา เพราะเทือกเขาหิมาลัยนั้นเกิดจากการที่แผ่นเปลือกโลกสองแผ่นนั้นเคลื่อนตัวมาเกยกันจนดันแนวขอบตะเข็บของเปลือกปูดขึ้นเป็นแนวเทือกเขายาวมากกว่า 2,400 กิโลเมตร!! พาดผ่านพื้นที่ของ 5 ประเทศ ปากีสถาน อินเดีย จีน ภูฏาน และเนปาล แม้กระทั่งยอดเขาเอเวอร์เรสต์ที่สูงที่สุดในโลกก็อยู่ที่เทือกเขาหิมาลัยนี้เองด้วย


ซึ่งเมื่อเรามองดูถึงแนวกระแสของเทือกเขาหิมาลัยนี้ แนวหลักนั้นจะพาดผ่านมาที่ประเทศไทย โดยมีที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพื้นที่สะสมพลังหรือเป็นท้องของมังกร แล้วกระแสมังกรก็สะสมพลังอีกครั้งผ่านคอขวดบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย โผล่มาเป็นหัวมังกรที่มาเลเซียที่ก็ถือว่าเป็นประเทศที่มีฮวงจุ้ยที่ดีมากแล้ว แต่กระแสมังกรนี้ยังหลากไหลไม่หยุด จนมาจบที่จุดสุดท้ายของคาบสมุทรอินโดจีนนั่นคืออยู่ที่สิงคโปร์ หรือที่ซินแสฮวงจุ้ยเรียกว่าเป็นทำเล “ไข่มุกมังกร” หรือ “มังกรคาบแก้ว” นั่นเอง





แนวกระแสพลังจากเทือกเขาหิมาลัย (ซ้าย) หลากไหลมารวมตัวกันที่จุดสุดท้ายของคาบสมุทรอินโดจีน นั่นก็คือประเทศสิงคโปร์ (ขวา) ลองจินตนาการว่าทำไมซินแสฮวงจุ้ยจึงเรียกว่าเป็นทำเล “ไข่มุกมังกร” หรือ “มังกรคาบแก้ว”

คำถามก็ถือเพราะอะไรก่อนหน้านี้สิงคโปร์นั้นถึงได้เจริญรุ่งเรืองช้ากว่าประเทศอื่นๆในคาบสมุทรอินโดจีน หากไม่นับในช่วงครึ่งทศวรรษสุดท้ายหรือตั้งแต่สมัยที่ ลี กวน ยู เริ่มเข้ามาบริหารประเทศในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี คศ.1959 ที่เขาเริ่มทำให้สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่คนทั่วโลกต้องคอยจับตาในความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา นั่นก็เพราะก่อนหน้านี้สิงคโปร์เองยังมีลักษณะของฮวงจุ้ยที่เสียอย่างมหาศาลอยู่สองจุด


ในส่วนแรกคือสิงคโปร์จะมีแม่น้ำสองสายสำคัญได้แก่ แม่น้ำสิงคโปร์ (Singapore River) ที่พาดทางฝั่งตะวันตก และ แม่น้ำกัลลัง (Kallang River) ที่พาดผ่านทางฝั่งตะวันออก โดยแม่น้ำทั้งสองสายนี้ไม่บรรจบกันบริเวณทางปากอ่าวสิงคโปร์ทางใต้ของเกาะ จึงทำให้แบ่งสิงคโปร์ออกเป็น 3 ส่วน จึงทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเกิดความไม่สามัคคีกันภายในประเทศ สอดคล้องกับในสมัยก่อนที่สิงคโปร์ถือเป็นที่ชุมนุมของคนจากหลากหลายเชื้อชาติ หลายเผ่าพันธุ์ ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อย รวมไปถึงการเก็บความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไว้ไม่ได้ด้วย




เดิมก่อนที่จะมีการถมที่ดินบริเวณอ่าวมาริน่า แม่น้ำสิงคโปร์ (ลูกศรซ้ายมือ) และแม่น้ำกัลลัง (ลูกศรขวามือ) ไม่บรรจบกัน ทำให้แบ่งประเทศออกเป็น 3 ส่วน

ส่วนข้อเสียอย่างที่สองคือในสมัยก่อนคนสิงคโปร์จะใช้ชีวิตกันอยู่ที่ริมแม่น้ำกันเป็นเรื่องปกติคล้ายๆกันกับในประเทศไทยของเรา แต่เนื่องจากพื้นที่ริมแม่น้ำมีน้อยกว่ามาก บริเวณปากอ่าวนั้นก็ทำหน้าที่เป็นท่าเรือไปด้วย ส่วนแม่น้ำด้านในเมืองก็เป็นพื้นที่ค้าขาย ทำให้แม่น้ำทั้งสองสายหลักของสิงคโปร์นั้นสกปรกไม่สะอาด ในศาสตร์ฮวงจุ้ยเรามองแม่น้ำเป็นสิ่งที่นำพาโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้ ดังนั้นเมื่อแม่น้ำหลักของประเทศไม่สะอาดจึงถือว่าเป็นลักษณะฮวงจุ้ยที่ไม่เป็นมงคลทำให้ประเทศไม่เจริญรุ่งเรือง


ลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ (คศ.1959-1990) เป็นคนเชื้อสายจีน และมีความเชื่อในศาสตร์ฮวงจุ้ยเป็นอย่างมาก ถือเป็นบุคคลสำคัญในการพัฒนาประเทศสิงคโปร์


ส่วนตัวของ ลี กวน ยู นั้นเป็นคนสิงคโปร์เชื้อสายจีน แม้ว่าตัวเขาจะเป็นเด็กนักเรียนนอกจากอังกฤษแต่ก็มีความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ยมาก ดังนั้นเมื่อเขาชนะการเลือกตั้งใหญ่ในปี คศ.1959 ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ สิ่งสำคัญที่เขาได้ทำนอกเหนือจากการบริหารประเทศตามปกติก็คือเขาได้ทำการปรับ “ฮวงจุ้ยของประเทศ” โดยซินแสที่เขาได้ให้ความนับถือคือ อาจารย์หง ฉวน ผู้เป็นพระที่วัดเจ้าแม่กวนอิมของสิงคโปร์ หลักการสำคัญที่อาจารย์หง ฉวน ได้แนะนำในข้อแรกก็คือการถมที่ดินเพื่อรวมแม่น้ำสองสายหลักเข้าด้วยกัน เพื่อให้ประเทศสามารถจะสะสมกระแสพลังที่ดีไว้ได้ การรวมแม่น้ำจากสองสายให้เป็นสายเดียวก็ช่วยลดการทะเลาะเบาะแว้งไม่สามัคคีของคนในประเทศได้


ถ้าคิดภาพไม่ออกว่าสิงคโปร์ถมที่ดินทางทิศใต้ของประเทศเยอะขนาดไหน ก็ให้เราลองนึกถึงบริเวณคล้ากคีย์ (Clark Quay) สถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำแห่งสำคัญของสิงคโปร์ที่อยู่ทางเหนือของอ่าวมาริน่า (Marina Bay) โดยในสมัยก่อนนั้นคล้ากคีย์แท้จริงแล้วก็คือบริเวณปากอ่างสิงคโปร์ เป็นจุดสุดท้ายของแม่น้ำสิงคโปร์ก่อนลงทะเลนั่นเอง ดังนั้นแปลว่าพื้นที่บริเวณอ่าวมาริน่าทั้งหมดเกิดขึ้นจากการถมทะเล!! (Land Reclamation) โดยในช่วงที่เริ่มทำการถมทำเลนั้นสิงคโปร์ก็ได้ทำการแก้ไขฮวงจุ้ยในส่วนปากอ่าวเดิมบริเวณคล้ากคีย์โดยการตั้ง “เมอร์ไลออน” (Merlion) ที่จะคอยพ่นน้ำย้อนทวนกระแสน้ำไหลออกจากแม่น้ำสิงคโปร์ไว้ไม่ให้พาความเจริญรุ่งเรืองให้ออกไปได้ง่าย



(ซ้าย) ภาพแรเงาแสดงพื้นที่ที่ดินที่สิงคโปร์ถมขึ้นมา ในวงกลมสีแดงคือตำแหน่งที่เน้นในการปรับฮวงจุ้ยโดยการรวมแม่น้ำสองสาย และปิดปากอ่าวสิงคโปร์ (ขวา) เมอร์ไลออน ที่นอกจากจะเน้นเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว ยังใช้ในวัตถุประสงค์เรื่องการแก้ฮวงจุ้ยเพื่อกันน้ำไหลออกที่ปากอ่าวก่อนที่จะทำการถมทะเล

หลังจากนั้นโครงการก่อสร้างสำคัญอื่นๆในประเทศเช่น อาคารซันเทคซิตี้ (Suntec City) ที่มีลี กา ชิง (Lee Ka Shing) มหาเศรษฐีชาวฮ่องกงมาร่วมหุ้นกับนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ก็ถูกสร้างขึ้นมาบริเวณพื้นที่ถมใหม่เพื่อช่วยในการเก็บกระแสพลังให้กับประเทศ โดยการออกแบบฮวงจุ้ยนั้นให้เป็นกลุ่มอาคาร 5 แท่งเรียงกันเหมือนกับเป็นรูปมือข้างซ้าย โดยที่กลางฝ่ามือหรือบริเวณอุ้งมือนั้นจะมีน้ำตกขนาดใหญ่เรียกว่าน้ำตกแห่งความมั่งคั่ง (Fountain of Wealth) ที่สูงมากกว่า 13 เมตร กินพื้นที่มากกว่า 1,600 ตร.ม. คอยกักเก็บกระแสพลังดีให้กับบริเวณปากอ่าวสิงคโปร์ หรือแม้กระทั่งโครงการใหม่ล่าสุดอย่าง มาริน่าเบย์แซนด์ (Marina Bay Sands) ศูนย์การค้าและคาสิโนขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน ก็ถูกวางฮวงจุ้ยให้เป็น 3 อาคารใหญ่ เหมือน ฮก ลก ซิ่ว และมีสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่เชื่อมทั้ง 3 อาคารให้เป็นรูปทรงโค้งโอบ คอยคุมปากอ่าวสิงคโปร์ใหม่ที่บริเวณอ่าวมาริน่าเพื่อเก็บกระแสพลังซ้อนจากซันเทคซิตี้ไว้อีกชั้นหนึ่ง



(ซ้าย) อาคารซันเทคซิตี้ และน้ำตกแห่งความมั่งคั่ง ที่สร้างเป็นรูปอุ้งมือซ้าย (ขวา) อาคารมาริน่าเบย์แซนด์ และอ่าวมาริน่า ทั้งสองถือเป็นสิ่งปลูกสร้างตามยุทธศาสตร์การวางฮวงจุ้ยของประเทศสิงคโปร์


ส่วนคำแนะนำในข้อที่สองนั้นคือการปรับสภาพแม่น้ำสำคัญทั้งสองสายได้แก่แม่น้ำสิงคโปร์และแม่น้ำกัลป์ลังให้สะอาดสวยงาม เพื่อปรับเปลี่ยนให้สายน้ำนั้นช่วยพาโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองในด้านที่เป็นมงคลมาหล่อเลี้ยงประเทศ สายน้ำที่สะอาดทำให้สิงคโปร์ทำธุรกิจการค้าที่สะอาดโปร่งใส ลดการคอร์รัปชั่นภายในประเทศทั้งในหน่วยงานรัฐบาลและเอกชน ลดอาชญากรรมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน โดยลี กวน ยู ทำการเวนคืนที่ดินริมแม่น้ำทั้งหมดและปรับสภาพภูมิทัศน์ทั้งในแม่น้ำและข้างแม่น้ำให้สวยงาม การจอดเรือจนดูเกะกะ การใช้ชีวิตริมฝั่งแม่น้ำ การทิ้งขยะสิ่งสกปรกในแม่น้ำถือเป็นสิ่งต้องห้ามในสิงคโปร์ ซึ่งในข้อนี้นอกจากจะช่วยในเรื่องของฮวงจุ้ยแล้ว ยังทำให้บรรยากาศเรื่องการท่องเที่ยวของสิงคโปร์เองก็ดีด้วย




ความสะอาดสะอ้านและความสวยงามของสิงคโปร์ในปัจจุบัน นำพาความเจริญรุ่งเรืองมาให้ประเทศ โดยภาพนี้เป็นมุมมองไปยังแม่น้ำกัลลัง



จวบจนกระทั่งในปัจจุบันนี้ แม้ว่าผู้นำประเทศสิงคโปร์จะเปลี่ยนถ่ายไปสู่ โก๊ะ จ๊ก ตง มาจนสู่ ลี เซียน ลุง ผู้เป็นบุตรชายของ ลี กวน ยู แล้ว สิ่งที่นายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ของสิงคโปร์ให้ความใส่ใจนอกจากเรื่องการบริหารกิจการบ้านเมือง ก็คือการปรับฮวงจุ้ยของประเทศให้ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง ซึ่งเราเองก็ยังเชื่อได้ว่าสิงคโปร์จะยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นประเทศที่นำพาอาเซียนให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองร่วมไปกับประเทศมาเลเซียและประเทศไทยของเราได้อย่างต่อเนื่องครับ






หน้าแรกฮวงจุ้ย

 

 

 

 


Copyright©2007 by Master Tawan Lekhapat. All Rights Reserved.mastertawan@hotmail.com